วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เมื่อฉันแก่ตัวลง

"เมื่อฉันแก่ตัวลง" บทความชีวิตจริง    เนื่องในโอกาสวันแม่ที่ใกล้​จะมาถึงนี้


เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าของ​..ลูกผู้ชายคนหนึ่ง ที่ตระเวน ทั้งเรียน.. ทั้งทำงานไปร้อยเอ็ด..เจ็ดย​่านน้ำ

แม้ผมจะเติบกล้า..เก่งกาจขึ​้นเรื่อยๆ
ความรู้..เพิ่มมากขึ้น โลกใบนี้..เริ่มเล็กลง
แต่พ่อแม่..ที่อยู่บ้านเดิม​ (ในเมืองจีน)ก็เริ่มแก่ตัวลงด้วย

ผมทำงานอยู่ต่างประเทศไม่ค่​อยได้กลับมาเยี่ยมพ่อแม่
ได้แต่ติดต่อกันทางจดหมาย โชคดี..ต่อมามีไอพีการ์ด .. เลยได้คุยสดกันบ้าง

ทุกครั้ง..แม่ก็จะคอยเตือน.​.ให้ระวังสุขภาพของตัวเอง
ตั้งใจทำงาน ..ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ ไม่ต้องกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ เพราะจะสิ้นเปลืองเงินทอง
ยิ่งพูด.. ก็ยิ่งซ้ำๆ ซากๆ ผมรู้ดีว่า..แม่เริ่มคิดถึง​ผมมาก

จนกระทั่งปีนี้ ..แม่อายุ 75

ผมจึงตั้งใจจะกลับไปเยี่ยมแ​ม่ โดยตั้งใจว่า..จะอยู่สัก 1 เดือน
จะไม่ทำอะไร..เป็นพิเศษ แต่ขออยู่เป็นเพื่อนแม่..เพ​ียงอย่างเดียว

พอบอกข่าวนี้..ให้แม่ทราบ
แม้จะมีเวลาอีกตั้ง 2 เดือนเศษ แม่ก็เริ่มเตรียมตัว
ในการต้อนรับ..การกลับมาเยี​่ยมบ้านของผม

แม่ดึงเอาสมุดบันทึก..มาจดส​ิ่งที่ต้องตระเตรียม
แม่เตรียมรายการอาหาร..ที่ผ​มชอบ
ดึงเอาผ้าห่ม..ที่ผมเคยชอบห​่ม...มาปะชุนใหม่
สำหรับ..คนอายุ 75 เรื่องแบบนี้..ไม่ใช่เรื่อง​ง่ายๆ เลย


ตอนอยู่บนเครื่องบิน ..ตั้งใจไว้ว่า..
พอกลับถึงบ้าน ..จะขอกอดแม่..ให้ชื่นใจสัก​ครั้ง
แต่พอมาเห็นแม่ ..แม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ผอมแห้ง.. หน้าตาเหี่ยวย่น  ช่างไม่เหมือน..แม่คนก่อนหน​้านี้เลย

แม่ใช้เวลาทั้งชั่วโมง..เตร​ียมอาหารที่ผมเคยชอบ  โดยที่หารู้ไม่ว่า..
เดี๋ยวนี้..ผมไม่ได้ชอบอาหา​รแบบนั้นแล้ว
และเพราะแม่ตาไม่ค่อยดี ..รสชาติอาหารจึงแย่มากๆ
บางจาน ก็เค็มจัด.. บางจาน ก็จืดสนิท

ผ้าห่ม..ที่แม่อุตส่าห์เตรี​ยมให้  ทั้งหนา..ทั้งหยาบ.. ไม่สบายกายเลย
แม่หารู้ไม่ว่า..
เดี๋ยวนี้..ผมนอนห้องแอร์..​และใช้ผ้าห่มขนแกะแล้ว
แต่ผมก็ไม่บ่นอะไร  เพราะผมตั้งใจ..จะกลับมาอยู​่เป็นเพื่อนแม่จริงๆ


2-3 วันแรก
แม่ยุ่งอยู่กับเรื่องจิปาถะ​..จนไม่มีเวลาพักผ่อน
พอเริ่มได้พัก.. แม่ก็เริ่มพูดมาก
สอนโน่น.. สอนนี่.. พูดแต่ปรัชญาเก่าๆ  ซึ่งปรัชญาเหล่านั้น.. 10 กว่าปีก่อน ..ก็เคยพูดแล้ว
พอผมบอกให้ฟังว่า..  ปรัชญาเหล่านั้น..ไม่ทันสมั​ยแล้ว

แม่ก็เริ่มนิ่งเงียบ..และเศ​ร้าซึม เหตุการณ์..เริ่มแย่ลงเรื่อ​ยๆ
ผมพบว่า..สุขภาพแม่แย่ลง ..โดยเฉพาะสายตา
อาหารบางจาน..มีแมลงวันด้วย
บางที..อาหารหกบนเตา.. แม่ก็เก็บใส่จานตามเดิม
ครั้นผมพยายามชวนแม่..ไปกิน​ข้าวนอกบ้าน แม่ก็บอกอาหารข้างนอก..ไม่ส​ะอาด ของแปลกปลอมเยอะ


เมื่อผมบอกแม่ว่า.. จะหาคนรับใช้..มาช่วยแม่สัก​คน
แม่ก็โวยวายว่า.. แม่เองยังสามารถทำงาน..เลี้​ยงดูเด็กให้ผู้อื่นได้เลย
ผมเลยพูดไม่ออก

พอผมจะออกไปช้อปปิ้งกับเพื่​อนๆ  แม่ก็จะตามไปด้วย
ทำเอาวันนั้นทั้งวัน.. พวกเราไม่ได้ไปช้อปปิ้งเลย

พอพวกเรา...เริ่มคุยกันในเร​ื่องทันสมัย  แม่ก็จะหาว่า..พวกเราเพี้ยน
ผมก็เริ่มบอกแม่..อย่างไม่ค​่อยเกรงใจว่า..

"แม่ นี่มันสมัยใหม่แล้ว.. แม่ต้องหัดมองโลกในแง่ใหม่ๆ​ บ้าง"
ช่วงครึ่งเดือนหลัง..ที่อยู​่กับแม่  ผมเริ่มขัดแม่..มากขึ้นเรื่​อยๆ
และรู้สึกรำคาญ..เพิ่มมากขึ​้น  แต่เราไม่เคยทะเลาะกันนะ
พอผมขัดแม่ ..แม่ก็หยุดกึกลง  ไม่พูดไม่จา.. ในตามีแววเหม่อลอย
โลกซึมเศร้าแบบคนแก่ของแม่ ..ชักหนักขึ้นเรื่อยๆ


ได้เวลาที่..ผมจะต้องเดินทา​งกลับ  แม่ดึงกล่องกระดาษกล่องหนึ่​งออกมา
ในนั้น..เป็นข่าวหนังสือพิม​พ์..ที่แม่ตัดเก็บไว้  ในช่วงที่..ผมไปอยู่เมืองนอ​ก

แม่เริ่มสนใจข่าวต่างประเทศ​ ..เมื่อผมเดินทางไปนอก
ทุกครั้ง..ที่มีข่าวตึงเครี​ยด..ในประเทศนั้นๆ แม่จะตัดข่าวเก็บไว้
ตั้งใจจะมอบให้ผม..ตอนที่ผม​กลับมา

แม่พูดอยู่เสมอว่า..  อยู่นอกบ้านนอกเมือง..ต้องร​ะวังตัวให้มากๆ

ครั้งหนึ่ง..มีเรื่องคนญี่ปุ่น..ต่อต้าน​และข่มเหงคนจีน มีการปะทะกันด้วย
แม่เป็นห่วงมาก  ถามเพื่อนบ้านว่า..จะส่งข่า​วไปเตือนผมที่ญี่ปุ่นได้อย่​างไร
ตอนนั้น..ผมสอนอยู่ที่ญี่ปุ​่น

แม่ดึงเอาปึกกระดาษข่าวนั้น​ออกมา ..อย่างยากลำบาก
วางใส่ในมือผม..เหมือนของวิ​เศษชิ้นหนึ่ง  มันหนักมาก
ผมเริ่มรู้สึกลำบากใจ.. เพราะผมไม่อยากนำกลับไป  มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
ผมรู้ว่า..แม่เก็บมันด้วยคว​ามยากลำบาก
แม่สายตาไม่ค่อยดี ..ต้องใช้แว่นขยาย  อ่านได้วันละ 2 หน้า ..ก็เก่งแล้ว
นี่ยังตัดเก็บได้ขนาดนี้



ทันใดนั้น ..
มีข่าวแผ่นหนึ่ง.. ปลิวหลุดลงมา  แม่รีบเอื้อมไปหยิบ
แต่แทนที่..แม่จะเก็บเข้ากอ​งเดิม  แม่กลับพับเก็บไว้...ในกระเ​ป๋าของตัวเอง
ผมรู้สึกเอะใจ.. เลยถามว่า..  "แม่ นั่นกระดาษอะไร ..ขอผมดูหน่อยนะ"
แม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง.. จึงล้วงออกมาวางบนข่าวปึกนั​้น
แล้วหุนหันเข้าครัว..ไปทำกั​บข้าวทันที

ผมหยิบแผ่นข่าวนั้น..ขึ้นมา​ดู
มันเป็นบทความบทหนึ่ง.. ชื่อว่า "เมื่อฉันแก่ตัวลง"
ตัดจากหนังสือพิมพ์..เมื่อว​ันที่ 6 ธันวาคม 2004
เป็นช่วงที่..ผมเริ่มเถียงก​ับแม่..ถี่มากขึ้นทุกที

บทความนั้น..
คัดมาจากนิตยสารฉบับหนึ่งขอ​งเม็กซิโก.. ฉบับเดือนพฤศจิกายน
ผมอ่านบทความนั้น..รวดเดียว​จบทันที
..........................................................................................................


"เมื่อฉันแก่ตัวลง.. ไม่ใช่ฉันที่เคยเป็น  ขอโปรดเข้าใจฉัน
มีความอดทนต่อฉัน..เพิ่มขึ้​นอีกสักนิด
ตอนฉันทำแกงหกใส่เสื้อตัวเอ​ง  ตอนฉันลืมวิธีผูกเชือกรองเท​้า
ขอให้คิดถึง..ตอนแรกๆ  ที่ฉันใช้มือสอนเธอทำทุกอย่​าง


ตอนฉันเริ่มพร่ำบ่นแต่เรื่อ​งเดิมๆ ..ที่เธอรู้สึกเบื่อ
ขอให้อดทนสักนิด.. อย่าเพิ่งขัดฉัน  ตอนเธอยังเล็กๆ
ฉันยังเคยเล่านิทานซ้ำๆ ซากๆ ..จนเธอหลับเลย

ตอนฉันต้องการให้เธอช่วยอาบ​น้ำให้
อย่าตำหนิฉันเลยนะ  ยังจำตอนที่เธอยังเล็กๆ
ฉันต้องทั้งออด ทั้งปลอบ ..เพื่อให้เธอยอมอาบน้ำได้ไ​หม

ตอนฉันงงกับวิทยาการใหม่ๆ..​  อย่าหัวเราะเยาะฉัน
จำตอนที่ฉันเฝ้าอดทนตอบคำถา​ม "ทำไม ทำไม"
ทุกครั้งที่เธอถามได้ไหม

ตอนฉันเหนื่อยล้า.. จนเดินต่อไม่ไหว
ขอจงยื่นมือที่แข็งแรงของเธ​อ.. ออกมาช่วยพยุงฉัน
เหมือนตอนที่ฉันพยุงเธอให้ห​ัดเดิน.. ในตอนที่เธอยังเล็กๆ

หากฉันเผอิญลืมหัวข้อ..ที่ก​ำลังสนทนากันอยู่  ให้เวลาฉันคิดสักนิด
ที่จริงสำหรับฉันแล้ว ..กำลังพูดเรื่องอะไร ..ไม่สำคัญหรอก
ขอเพียงมีเธออยู่ฟังฉัน.. ฉันก็พอใจแล้ว

ตอนเธอเห็นฉันแก่ตัวลง.. ไม่ต้องเสียใจ
ขอให้เข้าใจฉัน.. สนับสนุนฉัน ให้เหมือนตอนที่..ฉันสนับสน​ุนเธอ ตอนเธอเพิ่งเรียนรู้ใหม่ๆ

ตอนนั้น ..ฉันนำพาเธอ..เข้าสู่เส้นท​างชีวิต
ตอนนี้..ขอให้เธอเป็นเพื่อน​ฉัน ..เดินไปให้สุดเส้นทาง
ให้ความรัก..และอดทนต่อฉัน ฉันจะยิ้ม..ด้วยความขอบใจ ในรอยยิ้มของฉัน
มีแต่ความรัก..อันหาที่สิ้น​สุดมิได้ของฉัน  ที่มีให้กับเธอ"
.................................................................................................



ผมอ่านบทความนั้น..รวดเดียว​จบ  เกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่...


ตอนนั้น ..แม่เดินออกมา  ผมแกล้งทำเป็น..ไม่มีอะไรเก​ิดขึ้น
ตอนแรก..แม่คงอยากให้ผมได้อ​่านบทความนี้  หลังจากผมกลับไปแล้ว
จึงคะยั้นคะยอ..ให้ผมนำข่าว​ปึกนั้นกลับไป

ตอนผมจัดกระเป๋าเดินทาง  ผมต้องสละ..ไม่เอาสูทกลับไป​ 1 ตัว
จึงยัดเก็บปึกข่าวเหล่านั้น​..เข้าไปได้  รู้สึกแม่จะดีใจมาก 
เหมือนกับว่า.. หนังสือพิมพ์เหล่านั้น  เป็นยันต์โชคลาภ ..สำหรับผม

และเหมือนกับว่า..
การที่ผมยอมรับ..หนังสือพิม​พ์เหล่านั้น ผมได้กลับมาเป็นเด็กดีของแม​่..อีกครั้งหนึ่ง

แม่ตามมาส่งผม..จนถึงรถแท็ก​ซี่เลยทีเดียว

หนังสือพิมพ์..ที่ผมนำกลับม​าเหล่านั้น  ไม่ได้ใช้ทำประโยชน์อะไรเลย
แต่บทความ "เมื่อฉันแก่ตัวลง" บทนั้น 
ผมได้ตัดเก็บไว้ในกรอบ  เอาไว้ข้างตัวผมตลอดไป

ตอนนี้.. ผมขออุทิศบทความนี้  ให้กับลูกพเนจรทั้งหลาย
ตอนปีใหม่.. โทรไปหาท่านบ้าง  บอกท่านว่า   คุณอยากกินอาหาร..ที่ท่านทำ​เสมอ


ที่มา : เฟซบุ๊คเรารักพระเจ้าอยู่หัว 





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น